1. ศักยภาพคน (2) ใช้กรอบ ปัจจัยกำหนดสุขภาพ) |
ความสามารถในการวิเคราะห์สถานการณ์ปัญหาสุขภาพ |
สามารถวิเคราะห์ปัญหาได้ครอบคลุมประเด็นและกลุ่มเป้าหมาย แต่การระบุขนาดปัญหาขาดความชัดเจน เนื่องจากที่มาของข้อมูลส่วนใหญ่นั้นมาจากหน่วยงานต่างๆ เท่านั้น ยังไม่ได้มีการวิเคราะห์ปัญหาจากกลุ่มเป้าหมาย
โปรแกรมออนไลน์ ช่วยให้เห็นสถานการณ์ปัญหาสุขภาพในแต่ละด้านชัดเจนขึ้น และทำให้เห็นความสำคัญของการระบุขนาด/ความรุนแรงของปัญหา |
|
2. ศักยภาพคน (2) ใช้กรอบ ปัจจัยกำหนดสุขภาพ) |
ความสามารถในการพัฒนาแผนงานโครงการ |
มีการพัฒนาศักยภาพบุคคล ในกลุ่มของ ทีมพี่เลี้ยงระดับเขต ทีมพี่เลี้ยงระดับพื้นที่ กลุ่มเป้าหมายในโครงการฯ อันประกอบไปด้วย ผู้รับผิดชอบงานกองทุนฯ,จนท.รพ.สต.,คณะกรรมการกองทุนสุขภาพและกลุ่มเป้าหมาย หรือผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง โดยประเด็นหลักที่มีการพัฒนาศักยภาพ ประกอบด้วย การวิเคราะห์สถานการณ์สุขภาพในพื้นที่ การพัฒนาแผนงาน/โครงการกองทุนสุขภาพ ฝึกปฏิบัติการใช้เครื่องมือ/โปรแกรมบันทึกข้อมูลออนไลน์ ซึ่งส่งผลให้มีทักษะและเล็งเห็นความสำคัญในการวิเคราะห์สถานการณ์ปัญหา ในพื้นที่ และสามารถนำมาหาแนวทาง/วิธีการในการสร้างเสริมสุขภาพ ผ่านกองทุนสุขภาพตำบลได้มากขึ้น
อย่างไรก็ตาม การพัฒนาศักยภาพยังไม่ครอบคลุมถึง บุคคลหรือกลุ่มต่างๆ เช่น คณะกรรมการกองทุนสุขภาพตำบลทุกคน กลุ่มผู้รับผิดชอบงาน/ผู้รับทุน กลุ่มเป้าหมาย ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย เนื่องจากทีมพี่เลี้ยงระดับเขต ทีมพี่เลี้ยงระดับพื้นที่ เล็งเห็นว่าโปรแกรมออนไลน์นี้มีการใช้ที่ค่อนข้างยากและซับซ้อน จึงควรเริ่มจากกลุ่มคนที่จะสามารถฝึกและใช้ได้ก่อน โดยคาดหวังว่าเมื่อกลุ่มนี้ใช้ได้อย่างชำนาญแล้ว จะเกิดการขยายผลไปสู่คนและกลุ่มต่างๆในชุมชนได้มากขึ้น |
|
3. ศักยภาพคน (2) ใช้กรอบ ปัจจัยกำหนดสุขภาพ) |
ความสามารถในการป้องกันและแก้ไขปัญหาสุขภาพ |
สามารถแก้ไขปัญหาและเกิดผลต่อสุขภาพในบางโครงการ/เรื่อง เช่น
- สารเคมีในเลือดเกษตรกร มีข้อมูลชัดเจน ชาวบ้านเกิดความตระหนักจนนำไปสู่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรม
- สุขภาพผู้สูงอายุ เกิดโรงเรียนผู้สูงอายุ มีการขับเคลื่อนโรงเรียนผ่านธรรมนูญ ทำในทุกตำบล มีหลักสูตรที่สอดคล้องกับสุขภาพกลุ่มเป้าหมาย
- กลุ่มติดบ้าน ติดเตียง สามารถออกแบบกิจกรรม และกายอุปกรณ์ได้สอดคล้องกับปัญหา |
|
4. ศักยภาพคน (2) ใช้กรอบ ปัจจัยกำหนดสุขภาพ) |
ความเข้าใจต่อแนวคิดสุขภาพ |
พบว่า ระดับเจ้าหน้าที่ มีความเข้าใจต่อแนวคิดสุขภาพที่กว้างออกไปกว่าสุขภาพทางกายและจิต กล่าวคือ เข้าใจว่าสุขภาพ หมายถึง คุณภาพชีวิตของประชาชนในทุกด้าน
แต่ระดับกลุ่มเป้าหมายในพื้นที่ ยังเข้าใจต่อแนวคิดสุขภาพว่าเป็นเพียงการเจ็บไข้ได้ป่วยเท่านั้น |
|
5. มีกลไก ระบบ กระบวนการ (2) ใช้กรอบ ปัจจัยกำหนดสุขภาพ) |
มีการพัฒนาศักยภาพกลไกอย่างต่อเนื่อง |
มีการพัฒนาศักยภาพ แต่ขาดความต่อเนื่อง และผู้ที่ได้รับการพัฒนาศักยภาพไม่ครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายในพื้นที่ เป็นเพียงระดับเจ้าหน้าที่เท่านั้น และเมื่อมีการโยกย้ายตำแหน่งก็ขาดการถ่ายทอด/ส่งต่อ |
|
6. มีกลไก ระบบ กระบวนการ (2) ใช้กรอบ ปัจจัยกำหนดสุขภาพ) |
ฐานข้อมูลสุขภาพ |
มีฐานข้อมูลด้านสุขภาพ จำแนกตามประเด็นปัญหาสุขภาพ เพื่อใช้ในการขับเคลื่อนนโยบายสาธารณะด้านสุขภาพและการพัฒนาคุณภาพชีวิต พร้อมให้หน่วยงานอื่นๆ นำไปใช้ได้ (บูรณาการข้อมูลระหว่างหน่วยงานในพื้นที่)
ข้อสังเกตเพิ่มเติมจากพี่เลี้ยงจังหวัด : คนที่ออกแบบโปรแกรมอาจจะโฟกัสเฉพาะเงินกองทุน ควรออกแบบโปรแกรมให้เห็นถึงบทบาทของทุกหน่วยงานที่มาร่วมขับเคลื่อนโครงการ |
|
7. มีกลไก ระบบ กระบวนการ (2) ใช้กรอบ ปัจจัยกำหนดสุขภาพ) |
กระบวนการวิเคราะห์ปัญหา ทำแผน/โครงการ แก้ไขปัญหา ติดตามหนุนเสริม |
กระบวนการพัฒนาโครงการ/แผนงานกองทุน สอดคล้องกับนโยบาย แต่ยังไม่ตอบสนองต่อปัญหาในพื้นที่ บางแห่งจัดทำโครงการเดิมที่เคยทำมา (เปลี่ยนเฉพาะ พ.ศ.) เพราะระยะเวลาในการพัฒนาแผนงาน/โครงการ กระชั้นชิด
เกิดระบบที่เข้ามาช่วยหนุนเสริมในการจัดทำแผนงาน/โครงการ ได้มากขึ้น ดังที่กล่าวในจุดเด่นของโปรแกรมออนไลน์ คือ ทำให้เกิดการวิเคราะห์สถานการณปัญหา ในพื้นที่ มีแนวทาง/วิธีการสร้างเสริมสุขภาพที่ชัดเจน ที่สามารถนำมาปรับใช้ได้ มีโปรแกรมที่เชื่อมโยงประเด็นต่างๆอย่างเป็นระบบมากขึ้น/เช่นข้อมูล เป้าหมาย แนวทาง เป็นต้น มีการจัดเก็บฐานข้อมูลเดิม เพื่อต่อยอดข้อมูลใหม่ได้ เช่น ข้อมูลพัฒนาการเด็ก สามารถเรียนรู้จากพื้นที่อื่นๆ ทั่วประเทศ รวมถึงเป็น นอกจากนี้ทำให้คนเล็งเห็นถึงขนาดของสถานการณ์ปัญหาว่ามีความสำคัญมากอย่างไร และสามารถติดตามงานผ่านระบบออนไลน์ได้
อย่างไรก็ตาม พบว่า โปรแกรมออนไลน์นี้ มีความซ้ำซ้อนกับโปรแกรมรายงานผลดำเนินงานของสปสช. และส่วนใหญ่สะท้อนว่าค่อนข้างจะเป็นการเพิ่มภาระงานให้กับพื้นที่อีกด้วย นอกจากนี้โปรแกรมยังใช้ยากและมีความซับซ้อน คนที่เข้าอบรมการใช้โปรแกรม กำลังอยู่ในขั้นการทดลองปฏิบัติการใช้โปรแกรม จึงส่งผลให้ความรู้ความเข้าใจ ในการใช้โปรแกรมไม่มากนัก |
|
8. มีกลไก ระบบ กระบวนการ (2) ใช้กรอบ ปัจจัยกำหนดสุขภาพ) |
การมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนในพื้นที่ |
การมีส่วนร่วมจะเกิดขึ้นในการดำเนินกิจกรรมสุขภาพของกองทุนสุขภาพ ในระดับการเข้าร่วมกิจกรรม รับประโยชน์
แต่ในการวิเคราะห์ปัญหาสุขภาพ พัฒนาแผนงานโครงการฯยังไม่ปรากฏชัดเจนมากนัก เนื่องจากพื้นที่เน้นพัฒนาในกลุ่มเจ้าหน้าที่รับผิดชอบ และ เจ้าหน้าที่ รพ.สต. ก่อน จึงยังไม่ได้เกิดการเสริมสร้างความเข้มแข็งของชุมชน ประกอบกับการพัฒนาแผนงาน/โครงการ ใช้ข้อมูลของปีงบประมาณ 2563 ซึ่งมีการดำเนินการผ่านมาแล้ว จึงเน้นไปที่การฝึกใช้โปรแกรม
และศักยภาพของคน/กลุ่มที่แตกต่างกัน จึงเป็นบทบาทของเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบ ในการพัฒนาแผนงาน/โครงการ และรายงานผล |
|
9. สภาพแวดล้อม (2) ใช้กรอบ ปัจจัยกำหนดสุขภาพ) |
ประเด็นสุขภาพที่ชัดเจน |
ระดับ พชอ. ได้กำหนดประเด็นสุขภาพไว้อย่างชัดเจน มี 10 ประเด็น ได้แก่ ไข้เลือดออก ขยะ อาหารปลอดภัย อุบัติเหตุ
แต่ระดับกองทุน ยังไม่ชัดเจนเท่าใดนัก เป็นการขับเคลื่อนให้สอดคล้อง 8 กลุ่มเป้าหมายของ สปสช.เท่านั้น |
|
10. สภาพแวดล้อม (2) ใช้กรอบ ปัจจัยกำหนดสุขภาพ) |
นโยบาย หรือแนวทางและเครื่องมือในการบูรณาการสร้างเสริมสุขภาพ |
พื้นที่จะใช้เครื่องมือธรรมนูญสุขภาพเป็นหลัก |
|
11. การพัฒนาและสร้างทีมกลไกพี่เลี้ยงระดับเขตและระดับพื้นที่ (4) ใช้กรอบ CIPP) |
เกิดกระบวนการสร้างทีมกลไกฯ อย่างมีส่วนร่วม |
- ทีมพี่เลี้ยงเขตระดับเขต จะประสานกับทาง สปสช. เพื่อทำความเข้าใจแนวทางการดำเนินโครงการฯ ชี้แจงความสำคัญและประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นในการดำเนินงาน แล้วจึงร่วมการคัดเลือกพื้นที่เป้าหมาย ในการเป็นพื้นที่นำร่องขับเคลื่อนโครงการ
- คุณสมบัติคือ มีการขับเคลื่อนงานที่เข้มแข็ง และมีกลไก/คนทำงานที่มีศักยภาพ ทั้งในงานด้านการพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับอำเภอ และงานด้านกองทุนสุขภาพตำบล
- ประสานไปที่ สสจ. และพื้นที่ เพื่อคัดเลือกคนเข้ามาเป็นทีมพี่เลี้ยง และนำไปร่วมพัฒนาศักยภาพกับทีมกลาง
ดังนั้นจะพบว่า การสร้างทีมพี่เลี้ยงระดับเขต,สร้างทีมพี่เลี้ยงระดับพื้นที่ จะเน้น
- การสร้างความเข้าใจกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและพื้นที่เป้าหมายในการทำงาน ทั้งในส่วนของ สปสช. สสจ. และ พชอ.ในพื้นที่
- คัดเลือกคนที่จะเป็นพี่เลี้ยงจากศักยภาพ ในความรู้ในการทำงาน การประสานงานเชื่อมโยงกับหน่วยงานต่างๆในพื้นที่ สามารถประสานกับ พชอ. สามารถ ติดตามการทำงานในกองทุนสุขภาพได้ |
|
12. การพัฒนาและสร้างทีมกลไกพี่เลี้ยงระดับเขตและระดับพื้นที่ (4) ใช้กรอบ CIPP) |
กลไกฯ มีเป้าหมายการทำงานร่วมและ แผนปฏิบัติงานพื้นที่ |
การประชุม Coaching ทีมระดับเขตสุขภาพที่ 7 เพื่อชี้แจงแผนงานโครงการบูรณาการขับเคลื่อนงานสร้างเสริมสุขภาวะและพัฒนากลไกสุขภาวะระดับพื้นที่ โดยใช้วิธีการประชุมเชิงปฏิบัติการกับคฅณะทำงานเขต 7 ในพื้นที่เป้าหมาย 4 แห่ง ซึ่ง พชอ.โพธิ์ชัยเป็นหนึ่งในนั้น มีการ
-ชี้แจงความสำคัญและเป้าหมายโครงการฯ
-การแลกเปลี่ยนสถานการณ์ การขับเคลื่อนงานกองทุนหลักประกันสุขภาพระดับท้องถิ่นหรือพื้นที่ และการขับเคลื่อนงานคณะกรรมการพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับอำเภอ (พชอ.)
-การแนะนำเครื่องมือ/โปรแกรมบันทึกข้อมูลออนไลน์
-ร่วมกันออกแบบแผนงานโครงการบูรณาการขับเคลื่อนงานสร้างเสริมสุขภาวะ และพัฒนากลไกสุขภาวะระดับพื้นที่ เขต 7 |
|
13. การพัฒนาและสร้างทีมกลไกพี่เลี้ยงระดับเขตและระดับพื้นที่ (4) ใช้กรอบ CIPP) |
กลไกฯมีองค์ประกอบครอบคลุมภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง และแบ่งบทบาทหน้าที่อย่างชัดเจน |
ทางโครงการฯ ได้มีคณะทำงาน และแบ่งบทบาทหน้าที่การดำเนินงาน โดยเน้นการมีส่วนร่วมตั้งแต่ระดับนโยบาย ระดับจังหวัด ระดับอำเภอ และระดับพื้นที่ เพื่อให้เกิดความเข้าใจในการทำงาน และร่วมมีบทบาทในการขับเคลื่อนโครงการฯ ดังรายละเอียดดังต่อไปนี้
1) สำนักงานหลักประกันสุขภาพเขต 7 ขอนแก่น โดยเป็นผู้รับผิดชอบงานด้านดูแลกองทุนสุขภาพตำบล จำนวน 1 คน บทบาท คือ ให้คำปรึกษา เสนอแนะแนวทางที่สำคัญ ร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้
2) ทีมพี่เลี้ยงระดับเขต จำนวน 4 คน บทบาทคือ ออกแบบกระบวนและเครื่องมือ จัดเวทีชี้แจงการทำงาน และ การทำแผนและโครงการสุขภาพและใช้โปรแกรมบันทึกข้อมูลออนไลน์ ประสานแผนกับ พชอ. และจัดเวทีสรุปบทเรียน รวมถึงเอื้ออำนวยในการบันทึกข้อมูลในแบบอนุมัติโครงการ ติดตามหนุนการทำงาน และบริหารจัดการโครงการ
3) ทีมพี่เลี้ยงระดับพื้นที่ จำนวน 2 คน ประกอบด้วย ผู้ดูแลงานด้านกองทุนสุขภาพตำบลของสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด และพี่เลี้ยงกองทุนตำบลระดับอำเภอ บทบาทคือ ร่วมออกแบบกระบวนการทำงาน จัดทำแผนงานพื้นที่และประสานงานกับกลุ่มเป้าหมายต่างๆ ดำเนินการ,ร่วมกิจกรรมในพื้นที ประสาน และบูรณาการแผน/โครงการกองทุนสุขภาพกับ พชอ. ร่วมติดตาม สนับสนุน แลกเปลี่ยนเรียนรู้ พื้นที่ |
|
14. การพัฒนาศักยภาพกองทุนฯ (ทำแผน/โครงการ ติดตามประเมินผล) (4) ใช้กรอบ CIPP) |
เกิดความรู้ ความเข้าใจ ทักษะ การวิเคราะห์ปัญหาสุขภาพ การพัฒนาแผนงาน/โครงการ และการติดตามผล |
การพัฒนาศักยภาพกองทุนฯ (ทำแผน/โครงการ ติดตามประเมินผล) ซึ่งผลประเมินสามารถแบ่งออกได้ 2 ส่วนคือ
ส่วนที่ 1 กระบวนการพัฒนาโครงการ/แผนงานกองทุน คณะกรรมการ หรือผู้รับผิดชอบที่ผ่านมา
- โครงการยังไม่ตอบสนองต่อปัญหาในพื้นที่ บางแห่งจัดทำโครงการเดิมที่เคยทำมา แต่ปัญหาหรือสถานการณ์เปลี่ยนไปแล้ว จึงไม่สอดคล้อง
- ระยะเวลาในการพัฒนาแผนงาน/โครงการ กระชั้นชิด เพราะเกินปีงบประมาณ กรรมการกองทุนยังไม่ได้ประชุม แต่งบประมาณเข้ามาแล้ว จึงต้องรีบดำเนินการ ส่งผลให้บางแห่งจะเป็นโครงการเดิมที่เคยทำมา ไม่ได้มีการพัฒนา ปรับปรุงให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน
- ศักยภาพผู้พัฒนาโครงการ ผู้เสนอโครงการ ซึ่งหากกลุ่ม/องค์กร ที่ขอรับการสนับสนุนโครงการฯ มีคนที่มีทักษะ มีความสามารถในการจัดทำโครงการ จะสามารถพัฒนาแผนงาน/โครงการได้ แต่บางกลุ่มเป็นกลุ่มชาวบ้านทั่วไป จึงไม่มีทักษะในการพัฒนาแผนงาน/โครงการได้อย่างมีประสิทธิภาพ ยังให้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบงานกองทุน
- ตัวชี้วัด เป้าหมาย ในการจัดทำโครงการฯ ส่งมาล่าช้า ทำให้การพัฒนาโครงการ/แผนงานกองทุน ไม่ตรงกับวัตถุประสงค์/เป้าหมาย
- การพัฒนาศักยภาพกรรมการ หรือผู้รับผิดชอบ พบว่า ผู้รับผิดชอบโครงการพัฒนาตนเองสามารถรับผิดชอบโครงการได้มากขึ้น คณะกรรมการกองทุนมีความรู้ ความเข้าใจ สามารถพิจารณาโครงการได้/บางแห่ง มี ผอ.กองคลัง มาเป็นผู้ช่วยเลขา ทำให้การทำงานชัดเจนคล่องตัวมากขึ้น และมีโปรแกรมติดตามความก้าวหน้าของโครงการ (โปรแกรมกองทุนสปสช.)
แต่ยังพบจุดด้อย คือ ศักยภาพของกรรมการยังไม่เท่าเทียมกัน ยังไม่มีกระบวนการพัฒนาศักยภาพ ความรู้ การเขียนโครงการ ที่ต่อเนื่องและชัดเจนให้กับกรรมการ หรือผู้รับผิดชอบ นอกจากนี้บางแห่งคณะกรรมการมีการกระจายอำนาจสู่ประชาชนในการทำโครงการยังน้อยอยู่ โดยให้เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบงานกองทุน เป็นผู้พัฒนาแผนงาน/โครงการ และขับเคลื่อนโครงการให้เป็นส่วนใหญ่ เนื่องจากผู้รับทุนส่วนใหญ่ยัง เขียนโครงการ ดำเนินการ และจัดทำเอกสารไม่ถูกต้อง
ส่วนที่ 2 การพัฒนาศักยภาพกองทุนฯ โดยโครงการฯ ทีมพี่เลี้ยงระดับเขต,สร้างทีมพี่เลี้ยงระดับพื้นที่ จะจัดเวทีประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อชี้แจงโครงการฯ การทำแผนและโครงการสุขภาพและใช้โปรแกรมบันทึกข้อมูลออนไลน์ ดังรายละเอียดต่อไปนี้
1) เวทีชี้แจงโครงการฯ จัดขึ้นเพื่อชี้แจงวัตถุประสงค์ความสำคัญโครงการฯ แนะนำเครื่องมือ/โปรแกรมบันทึกข้อมูลออนไลน์ (ส่งประเด็นให้พื้นที่ก่อน) วิเคราะห์และคัดเลือกประเด็นหรือปัญหาที่สนใจนำมาจัดทำแผนและโครงการด้านสุขภาพ กลุ่มเป้าหมาย จะประกอบไปด้วย สสจ. สสอ. ประธานคณะกรรมการกองทุนสุขภาพตำบล(นายก/ปลัด) ผู้รับผิดชอบงานกองทุนฯ และกลุ่มเป้าหมาย/ผู้เสนอโครงการฯ/ผู้ดำเนินโครงการฯ ของกองทุนสุขภาพตำบล (ตัวแทนจาก กลุ่มชุมชน/เจ้าหน้าที่ รพ.สต.)
2) ประชุมเชิงปฏิบัติการฯ “การทำแผนและโครงการสุขภาพและใช้โปรแกรมบันทึกข้อมูลออนไลน์” เพื่อการวิเคราะห์สถานการณ์สุขภาพระดับตำบล พัฒนาแผนงาน/โครงการกองทุนสุขภาพ ฝึกปฏิบัติการใช้เครื่องมือ/โปรแกรมบันทึกข้อมูลออนไลน์ กลุ่มเป้าหมาย จะประกอบไปด้วย สสจ. สสอ. ผู้รับผิดชอบงานกองทุนฯ และกลุ่มเป้าหมาย/ผู้เสนอโครงการฯ/ผู้ดำเนินโครงการฯ ของกองทุนสุขภาพตำบล (ตัวแทนจาก กลุ่มชุมชน/เจ้าหน้าที่ รพ.สต.)
ดังนั้นจะพบว่า การพัฒนาศักยภาพกองทุนฯ (ทำแผน/โครงการ ติดตามประเมินผล) ในส่วนของ กระบวนการพัฒนาโครงการ/แผนงานกองทุน คณะกรรมการ หรือผู้รับผิดชอบที่ผ่านมา นั้น ด้านศักยภาพกรรมการ หรือผู้รับผิดชอบ สามารถรับผิดชอบโครงการได้มากขึ้น คณะกรรมการมีความรู้ ความเข้าใจ และมีโปรแกรมติดตามความก้าวหน้าของโครงการ (โปรแกรมกองทุนสปสช.) หนุนเสริมการติดตามงาน แต่ศักยภาพของคนยังไม่เท่าเทียมกัน ยังไม่มีกระบวนการพัฒนาศักยภาพ ความรู้ การเขียนโครงการ ที่ต่อเนื่องและชัดเจนบางแห่งบทบาทการขับเคลื่อนงานจึงเป็นของเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบงานกองทุน ในด้านกระบวนการพัฒนาโครงการ/แผนงานกองทุน ยังไม่ตอบสนองต่อปัญหาในพื้นที่ บางแห่งจัดทำโครงการเดิมที่เคยทำมา เพราะระยะเวลาในการพัฒนาแผนงาน/โครงการ กระชั้นชิด
ซึ่งในการพัฒนาศักยภาพกองทุนฯ โดยโครงการฯ ได้มีการสร้างความเข้าใจแนวทางการทำงานต่อผู้บริหารท้องถิ่น อันเนื่องมาจาก ถ้าผู้บริหารเล็งเห็นความสำคัญของงาน จะทำให้การขับเคลื่อนสะดวกยิ่งขึ้น และได้มีการวิเคราะห์สถานการณ์สุขภาพระดับตำบล พัฒนาแผนงาน/โครงการกองทุนสุขภาพ ฝึกปฏิบัติการใช้เครื่องมือ/โปรแกรมบันทึกข้อมูลออนไลน์ |
|
15. การพัฒนาศักยภาพกองทุนฯ (ทำแผน/โครงการ ติดตามประเมินผล) (4) ใช้กรอบ CIPP) |
สามารถใช้โปรแกรมออนไลน์ และขยายผลสู่คนอื่นได้ |
คนที่เข้าอบรม กำลังอยู่ในขั้นการทดลองปฏิบัติการใช้โปรแกรม จึงส่งผลให้ความรู้ความเข้าใจ ในการใช้โปรแกรมไม่มากนัก |
|
16. ทีมประสานงานและทีมพี่เลี้ยงหนุนเสริมการจัดทำแผน การพัฒนาโครงการ และการติดตามประเมินผล (4) ใช้กรอบ CIPP) |
กระบวนการ/วิธีการ/เครื่องมือ |
การติดตาม 3 รูปแบบ
1. กระบวนการติดตามปกติของกองทุนฯ
- ร่วมกิจกรรม
- เวทีแลกเปลี่ยน
- รายงานกิจกรรม
- ติดตามทางสื่อ เช่น Line
ปัญหาที่พบ คือ ทีมประเมินไม่ครบองค์ประกอบ การรายงานออนไลน์ ไม่ครบตามวัตถุประสงค์
2.ระบบออนไลน์ สปสช.
- สามารถนำเสนอข้อมูลให้เข้าใจตรงกันได้ ที่ไม่สามารถคีย์ได้ คือบุคลากรมีภาระงานมาก เปลี่ยนคนรับผิดชอบ
3.การติดตามผ่านโปรแกรมบันทึกข้อมูลโครงการบูรณาการฯ โดยทีมพี่เลี้ยง |
|
17. ทีมประสานงานและทีมพี่เลี้ยงหนุนเสริมการจัดทำแผน การพัฒนาโครงการ และการติดตามประเมินผล (4) ใช้กรอบ CIPP) |
ปรับปรุง,พัฒนา,แก้ปัญหาร่วม การคัดเลือก |
มีการติดตามการดำเนินงาน แลกเปลี่ยนปัญหาการทำงาน และหาแนวทางแก้ไขร่วมกัน |
|
18. ทีมประสานงานและทีมพี่เลี้ยงหนุนเสริมการจัดทำแผน การพัฒนาโครงการ และการติดตามประเมินผล (4) ใช้กรอบ CIPP) |
ความต่อเนื่องในการติดตาม |
พี่เลี้ยงอำเภอ จัดเวทีติดตามในพื้นที่ แบ่งเป็น 2 โซน ๆ ละ 5 กองทุน เน้นการปฏิบัติงานให้สอดคล้องกับระเบียบ
นอกจากนี้ยังติดตามผ่านช่องทางอื่น ๆ ที่จัดทำขึ้น คือ กลุ่มไลน์ เพื่อให้คำปรึกษา ประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสารที่เกี่ยวข้อง และติดตามการบันทึกข้อมูลในโปรแกรมออนไลน์ |
|
19. กองทุนสุขภาพตำบลมีแผนตามประเด็นปัญหา (4) ใช้กรอบ CIPP) |
ข้อมูลสถานการณ์สุขภาพในพื้นที่ มีคุณภาพ |
การวิเคราะห์ข้อมูลสถานการณ์สุขภาพ จะเป็นการใช้ข้อมูลจากหน่วยงานต่างๆที่มีหน้าที่ข้อมูลรวบรวมข้อมูลในประเด็น/ด้านนั้น เช่น ข้อมูลสารเคมีในเลือด ข้อมูลการออกกำลังกาย จาก รพ.สต. เป็นต้น แต่ในบางประเด็นเป็นการประมาณการจากข้อมูลกลางหรือจากเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานเท่านั้น
ยังไม่ได้มีข้อมูลในส่วนของกลุ่มเป้าหมาย หรือผู้มีส่วนได้เสีย มาร่วมวิเคราะห์และให้ข้อมูล |
|
20. กองทุนสุขภาพตำบลมีแผนตามประเด็นปัญหา (4) ใช้กรอบ CIPP) |
แผนงานมีความครอบคลุม 5 ประเด็นหลัก และประเด็นอื่นๆ ตามบริบทพื้นที่ |
จากข้อมูลโปรแกรมบันทึกข้อมูลออนไลน์ https://localfund.happynetwork.org/project/planning (ข้อมูล ณ วันที่ 31 ส.ค. 63) พบว่า พชอ.โพธิ์ชัย มีแผนงานที่บันทึกข้อมูลออนไลน์ จำนวน 52 แผนงาน โดยแผนงานหลัก 5 ด้าน อันประกอบไปด้วย แผนงานเหล้า แผนงานบุหรี่ แผนงานสารเสพติด แผนงานอาหารและโภชนาการ แผนงานกิจกรรมทางกาย มีจำนวน 22 แผนงาน ซึ่งแผนงานหลักยังมีไม่ครอบคลุมทุกกองทุนสุขภาพตำบล อันเนื่องมาจากแต่ละกองทุนสุขภาพตำบล เน้นการวิเคราะห์จากปัญหา สถานการณ์ที่เกิดขึ้นจริงตามบริบทพื้นที่ |
|
21. กองทุนสุขภาพตำบลมีแผนตามประเด็นปัญหา (4) ใช้กรอบ CIPP) |
มีการใช้งานและการบันทึกข้อมูลแผนงานในโปรแกรมออนไลน์ |
จุดเด่นของการใช้โปรแกรมออนไลน์บันทึกข้อมูลแผนงาน
-ทำให้แผนโครงการมีประสิทธิภาพ เห็นสถานการณ์ ขนาดปัญหาชัด
-สามารถวิเคราะห์ปัญหาได้ทันที รวดเร็ว ประมวลผลออกมาได้ดี
-สร้างความเชื่อถือได้ของข้อมูล เพราะมีตัวเลขขนาดปัญหาชัดเจน นำไปยืนยันกับ คกก.กองทุนได้
-เป็นคลังข้อมูลขนาดใหญ่สำหรับทุกภาคส่วน มีไกด์ไลน์ชัดเจน ที่จะช่วยให้ภาคส่วนต่าง ๆ หยิบไปปฏิบัติการในพื้นที่ได้
จุดด้อยของการใช้โปรแกรมออนไลน์บันทึกข้อมูลแผนงาน
-ไม่ทราบขนาดปัญหาที่แท้จริง บางข้อมูลเป็นเพียงการประมาณการเท่านั้น
-โปรแกรมไม่สามารถเชื่อมต่อข้อมูลสถานการณ์ในขั้นตอนพัฒนาโครงการ
-ยังไม่ครอบคลุมทุกแผน เช่น แผนงานสารเคมี ยังไม่มีข้อมูล ต้องพิมพ์เอง
-สถานการณ์ปัญหายังไม่สอดคล้องกับบริบทจริงของพื้นที่ (อิงภาคใต้) |
|
22. กองทุนสุขภาพตำบลมีแผนตามประเด็นปัญหา (4) ใช้กรอบ CIPP) |
คุณภาพของข้อมูลที่บันทึกในโปรแกรมออนไลน์ |
|
|
23. โครงการด้านสุขภาพกองทุนตำบลมีคุณภาพ (4) ใช้กรอบ CIPP) |
โครงการมีแนวทางหรือกิจกรรมเพื่อแก้ไขปัญหาและสร้างเสริมสุขภาพอย่างชัดเจน สามารถแก้ไขปัญหาหรือตอบสนองความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย(กองทุนละ 1 โครงการเป็นอย่างน้อย) |
การพัฒนาแผนงาน/โครงการ ใช้ข้อมูลของปีงบประมาณ 2563 ซึ่งมีการดำเนินการผ่านมาแล้ว จึงเน้นไปที่การฝึกใช้โปรแกรม จึงยังไม่พบแนวทางหรือกิจกรรมใหม่ๆ ตามคู่มือฯมากนัก |
|
24. โครงการด้านสุขภาพกองทุนตำบลมีคุณภาพ (4) ใช้กรอบ CIPP) |
จำนวนข้อเสนอโครงการที่ถูกอนุมัติฯ |
โครงการที่พัฒนาผ่านโปรแกรมออนไลน์ ยังระบุชัดเจนไม่ได้
แต่โครงการที่พัฒนาผ่านระบบปกติ ได้รับอนุมัติ 70-100% (แตกต่างกันไปในแต่ละกองทุน) |
รอข้อมูลจากแต่ละกองทุน |
25. โครงการด้านสุขภาพกองทุนตำบลมีคุณภาพ (4) ใช้กรอบ CIPP) |
มีการใช้งานและการบันทึกข้อมูลโครงการในโปรแกรมออนไลน์ |
จุดเด่นของการใช้โปรแกรมออนไลน์บันทึกข้อมูลโครงการ
-มีแนวทางการทำโครงการ/กิจกรรมสามารถนำไปพัฒนาเป็นกิจกรรมในพื้นที่ได้
-ง่าย สะดวก ในการเขียนโครงการ
-สามารถปริ้นเสนอต่อกรรมการและผู้บริหารได้เลย
-สรุปรายงานโครงการได้
-มีคลังข้อมูลที่มาสามารสืบค้น และสามารถศึกษาพื้นที่เด่น เป็นตัวอย่างได้
จุดด้อยของการใช้โปรแกรมออนไลน์บันทึกข้อมูลโครงการ
-ชุดกิจกรรมที่มีในโปรแกรมไม่สามารถทำได้ตามแนวทางกิจกรรม เพราะงบจำกัด และบางข้อมูลไม่สอดคล้องกับโครงการที่พื้นที่ทำ ตัวเลือกไม่มีให้
-เมนูการเพิ่มข้อมูลแล้วต้องกด + ใช้ยาก ควรให้บันทึกอัตโนมัติ |
|
26. การบูรณาการขับเคลื่อนงานสร้างเสริมสุขภาวะระหว่าง พชอ. กับกองทุนสุขภาพตำบล (4) ใช้กรอบ CIPP) |
เกิดการใช้ฐานข้อมูลสุขภาพชุมชนในการกำหนด แผนงาน/นโยบายด้านสุขภาพในพื้นที่ |
พชอ. ข้อมูลที่นำมาพัฒนาแผน ใช้สถิติสาธารณสุข (โรคระบาดในพื้นที่ ไข้เลือดออก โควิด) มีการทำประชาคมกับชาวบ้าน ให้สะท้อนปัญหา 10 ตำบลนำมาสังเคราะห์รวมเป็นระดับอำเภอ คัด 10 เรื่องที่เป็นปัญหาทุกพื้นที่ การประชาคมเพื่อจัดทำธรรมนูญ จัดทำข้อมูลระดับหมู่บ้าน ใช้เวลา 1 ปี ส่วนราชการต่าง ๆ ร่วมนำเสนอข้อมูล จากชุดข้อมูลที่เคยจัดเก็บ เช่น สาธารณสุขเป็นเรื่องโรค อาหารปลอดภัยเป็นของเกษตร ท้องถิ่นเป็นเรื่องเหล้าบุหรี่
กองทุน แจ้งไปยังกลุ่มเป้าหมายตามระเบียบ ให้ส่งข้อเสนอแผนงานมายังกองทุน ส่วนใหญ่มาจาก รพ.สต. ขอข้อมูลจากหน่วยงานในพื้นที่ |
|
27. การบูรณาการขับเคลื่อนงานสร้างเสริมสุขภาวะระหว่าง พชอ. กับกองทุนสุขภาพตำบล (4) ใช้กรอบ CIPP) |
เกิดแนวทาง/กิจกรรม การสร้างเสริมสุขภาพระหว่าง พชอ. กับกองทุนสุขภาพตำบล |
สถานการณ์ปัจจุบัน คือ ยังไม่ได้มีการเชื่อมโยงการทำงานกันอย่างชัดเจน ระหว่าง พชอ. และกองทุนสุขภาพ กล่าวคือ พชอ.ขับเคลื่อนงานด้วยปัญหาภาพรวมในอำเภอ จากข้อมูลปัญหาจากพื้นที่และข้อมูลจากหน่วยงานต่างๆ โดยใช้ธรรมนูญสุขภาพ เป็นเครื่องมือในการขับเคลื่อน มีประเด็นร่วม และมาตรการต่างๆ โดยบทบาทหน้าที่ จะมอบให้หน่วยงาน/กลุ่มองค์กร ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง มีงบประมาณเป็นผู้ดำเนินการแก้ปัญหานั้นๆ กองทุนสุขภาพ เน้นการแก้ปัญหาครอบคลุมตามกลุ่มเป้าหมายของสปสช.
อย่างไรก็ตาม การจะมีประเด็น/ปัญหา/กิจกรรม ที่พชอ.และกองทุนขับเคลื่อนร่วมกัน เช่น อปท.บางแห่ง ทำเรื่องจัดการขยะ อปท.บางแห่งทำเรื่องอาหารปลอดภัย ก็จะมีการเชื่อมโยงกัน ดังนั้นจึงจะเห็นได้ว่ายังไม่ได้กำหนดแนวทาง วางยุทธศาสตร์การเชื่อมโยงที่ชัดเจน
การบูรณาการกับ พชอ.ยังไม่ค่อยเกิดไม่มีแผนเป็นรูปธรรม ในพื้นที่/กองทุนมีการกำหนดประเด็นหลักไว้ คือ การงด ละ เลิก เหล้า/บุหรี่/ยาเสพติด แต่ยังไม่รู้ว่าแต่ละกองทุนทำอะไรบ้าง สำหรับ พชอ.มีการกำหนดแผนและตัวชี้วัดไว้อย่างชัดเจน เช่น โรคไข้เลือดออก ลด ละ เลิก เหล้าบุหรี่ อาหารปลอดภัย เป็นต้น และได้ MOU กับหัวหน้าส่วนราชการ ซึ่งเป็นคณะกรรมการ พอช. แต่ในกองทุนยังไม่มีระบบนี้ ตัวชี้วัดในการทำแผนงาน/โครงการไม่ชัด นายกซึ่งเป็นประธานกองทุนยังไม่รับนโยบาย และยังไม่มีผู้รับผิดชอบที่จะมาร่วมกับ พชอ.อย่างชัดเจน
ทั้งนี้ โครงการบูรณาการฯ ช่วยให้เกิดการรับทราบทั่วกันระหว่างคณะกรรมการ พชอ. กับคณะกรรมการกองทุน ทำให้เห็นแนวทางในการขับเคลื่อนการบูรณาการร่วมกันอย่างจริงจัง คือ จัดเวทีพูดคุยสร้างความเข้าใจ (โดยเฉพาะกับผู้บริหาร: นายก/ปลัด) กำหนดเป้าหมายร่วม วิเคราะห์ข้อมูลปัญหาในพื้นที่ให้สอดคล้องกัน กำหนดประเด็นร่วม กำหนดแผนร่วมอย่างชัดเจน โดยใช้เครื่องมือธรรมนูญสุขภาพตำบล ทั้งนี้ถ่ายทอดพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการในกองทุน และพี่เลี้ยงอำเภอช่วยพิจารณา กลั่นกรอง ชี้แนะ ควบคุมติดตามสนับสนุน
ข้อสังเกตเพิ่มเติมจากพี่เลี้ยงจังหวัด การแปลงธรรมนูญสุขภาพไปสู่การปฏิบัติในระดับพื้นที่ งบประมาณไม่ได้จำกัดอยู่เพียงกองทุนสุขภาพตำบลเท่านั้น ยังมีหน่วยงานอื่น ๆ ในพื้นที่ที่จัดสรรงบประมาณไว้เพื่อบริการประชาชน ฉะนั้นสามารถประสานมาร่วมขับเคลื่อนได้ |
|